เนื้อหาฉบับนี้ เราจะมาแนะนำ, สอนเล่นเกม Orisries เบื้องต้นกัน โดยเนื้อหาฉบับนี้ เริ่มเขียนขึ้นจากประการหลังลองเล่นได้เพียง 5 วันหากมีข้อผิดพลาดต้องไหน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย
ดาวน์โหลด Orisries เวอร์ชั่น 12+
◘ iOS : App Store (ประเทศไทย)
◘ Android : Google Play (ประเทศไทย)
◘ APK Android : QooApp
หมายเหตุ : ตัวเกมลองรับภาษา จีน, เกาหลี และ ภาษาอังกฤษ (ไม่มีไทย)
ดาวน์โหลด Orisries เวอร์ชั่น R18
◘ Official Website (R18)
*ระวังภาพ R18 บนหน้า Website
1. เกม Orisries ถูกแบ่งระยะเวลาการเล่นออกเป็น Season
เนื่องด้วยเกม Orisries เป็นเกมแนวตีเมือง จึงทำให้ตัวเกมนั้นมีการสิ้นสุดฤดูกาล (รอบละ 2 สัปดาห์มั้ง) เพื่อเริ่มเล่นใหม่ในรอบถัดไป โดยทรัพยากรทั้งหมด จะถูกลบออก เหลืองเพียงแค่ "Hero" (เลเวล 1), "อุปกรณ์ใช้งาน" และค่าความสำเร็จต่างๆ จะถูกถ่ายทอดไปยังการเล่นในรอบถัดไป
2. เป้าหมายหลักของเกมนี้
เป้าหมายหลักของเกม Orisries คือการ ให้ประเทศของเรา ยึดครองสิ่งก่อสร้างที่ชื่อ "Sanctum of Genesis" และป้องกันไว้จนกระทั่งจบฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีระบบ World Progress (เควสโลก) ทีจะค่อยๆ ปลดล็อค เพื่อเร่งเกมการต่อสู้ให้เร็วยิ่งขึ้น (อาทิ ปลดล็อค Monster ฉากระดับสูง, เร่ง EXP) ตามช่วงเวลา หรือ % ความสำเร็จ ที่ผู้เล่นในเซิร์ฟเวอร์นั้นทำได้อีกด้วย
3. เลือกประเทศไหนดี?
เนื่องจากเป้าหมายของเกม Orisries คือการยึดครอง "Sanctum of Genesis" จึงทำให้ Eutopia (มาร), The Kingdom of Mist (เอลฟ์), Republic of Aaron (อังกฤษ) และ The Holy Church (เทพ) มีความได้เปรียบ และการแข่งขันระหว่างผู้เล่น (PvP) ที่สูง ส่วน Shenxiao Empire (จีน) และ Izumono-kuni (ญี่ปุ่น) นั้นอยู่ห่างกับ Sanctum of Genesis เป็นอย่างมาก จึงทำให้เสียเวลาในการขยายเขตแดน และเดินทัพเข้าร่วมสงคราม สูงกว่า 4 ประเทศแรกที่กล่าวมา (เหมาะสำหรับมือใหม่, สายสบายๆ)
4. การจัดทีพในเกม Orisries
Orisries ก็เหมือนเกมแนว RPG, Turn-Based ทั่วไป ที่มีเรื่องของกลยุทธ และการแพ้ชนะทางเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากเพื่อนๆ เป็นสายสำรวจ แนะนำให้ เลือกตัวละครที่มีสกิล "ฟื้นฟู" มาเข้าร่วมทีม จะช่วยให้คุณสูญเสียกำลังพล ในการต่อสู้แต่ละครั้งได้ในระดับหนึ่ง
►
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทีม
5. อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตัวละคร (Hero)
การสวมใส่อุปกรณ์นั้น ให้คำนึงถึงสกิลตัวละครที่เราอัปเกรดไว้ ว่าเป็นสกิลประเภทไหน โดย
◘ BRV และ ATK : ส่งผลต่อความแรงการโจมตี ของ Hero (เหมาะกับ Warrior, Mage)
◘ SPD : ส่งผลต่อความไว การออกแอคชั่นในแค่ละเทิร์น (เหมาะกับตัวละครที่มีสกิล Buff, Debuff)
◘ MOR : ส่งผลต่อ การโจมตีของทหาร (เหมาะกับ Vanguard)
◘ COM : ส่งผลต่อ ค่าป้องกันของทหาร (เหมาะกับ Shield)
◘ Lead. ค่าทหารที่สามารถนำออกรบได้
นอกจากนี้ สกิลแต่ละอย่างจะมี Bonus เพิ่มเติม เมื่ออัปถึงเลเวล 4 และ 7 ด้วยเหตุนี้ จึงควรเลือกอัปสกิล และนำมาใช้งานให้เหมาะสม เพราะแต้มอัปสกิลจากการอัปเลเวลนั้น มีจำนวนจำกัด
*จำนวนแต้ม Talent Pts : เลเวล 1 ได้ 5 แต้ม l ทุก 10 เลเวลตัวละคร ได้ +1 แต้ม l ตัวซ้ำได้ +1 แต้ม (สูงสุด 5 แต้ม)
6. สิ่งก่อสร้างภายในเมือง
การอัปเกรดสิ่งก่อสร้างภายในเมืองนั้น แนะนำให้เฉลี่ยอัปตามความเหมาะสม โดย
◘ Council Hall : เพื่อปลดล็อคเลเวลสูงสุด ของสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
◘ Warehouse : เพิ่มขีดจำกัด การเก็บทรัพยากร
◘ Barracks : เพิ่มขีดจำกัด การเก็บสะสมกำลังทหาร และจำนวนกองทัพ
◘ Recruit Center : ลดเวลาการรับสมัครทหาร, จำนวนการประการรับสูงสุด
◘ Infirmary : เพิ่มจำนวนการรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และลดเวลารักษา (ใช้สู้ไม่ได้ จนกว่าจะรักษา)
◘ Market : เพิ่มอัตราการแลกเปลี่ยนทรัพยากร ในตลาด
◘ Hero Institute : เพิ่มปริมาณทหารสูงสุด ที่สามารถบรรจุลงในกองทัพ
◘ ค่ายทหาร : เพิ่มค่าสะสมทอง และผลิตทรัพยากรเพิ่มเติม
◘ ค่ายทหาร (ฝึก) : ปลดล็อคทหารใหม่ และ ช่วยลดเวลาในการรับสมัคร (เลือกอัปตามประเภทที่ต้องการก่อน แล้วค่อยมาตามเก็บที่เหลือภายหลัง)
ส่วนสิ่งก่อสร้างด้านล่างนี้ สามารถอัปตามได้ภายหลัง
◘ Guild Hall : เพิ่มเกี่ยวกับการช่วยเหลือกิลด์
◘ City Wall : HP ของเมืองหลวง
◘ Sawmill, Iron Smeltery, Quarry, Farmstead : เพิ่มอัตราทรัพยากรที่ได้รับแบบคงที่
7. จุดฟาร์มทรัพยากร
ในช่วงเริ่มต้นให้คุณ คุณสามารถยึดครองพื้นที่ว่าง เพื่อฟาร์มทรัพยากรหลัก อย่างละ 50/ชั่วโมง (ไม้,หิน,แร่,ข้าว) ไปก่อนหลังจากนั้นค่อยไปยืดครองแหล่งฟาร์มเฉพาะ เนื่องจากจะได้ทรัพยากร และค่าชื่อเสียงที่มากยิ่งขึ้น (ตัวเลขข้างบน คือค่าชื่อเสียงที่ได้รับต่อชั่วโมง) โดย
1. ไม้ : หาได้การยึดครองป่าไม้ ใช้สร้าง, อัปเกรด, รับสมัครทหาร
2. หิน : ได้จากการยึดครองผาหิน ใช้สร้าง และอัปเกรดสิ่งก่อสร้างต่างๆ
3. แร่ : ได้จากการยึดครองเหมือง ใช้ใน สร้าง และรับสมัครทหาร
4. ข้าว : ได้จากการยืดครองฟาร์ม ใช้ใน สร้าง, รับสมัครทหาร และรักษาทหาร
โดยในกรณีที่คุณผลิตกองกำลังทหารออกมามากๆ คุณจะใช้ "ไม้" และ "ข้าว" เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไม่พอ สามารถใช้ทรัพยากรอื่นๆ ไปแลกได้จาก Market ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนจะค่อยๆ สูงขึ้นตามเลเวลของ Market (สูงสุด 10:8)
8. ระดับค่าชื่อเสียง (เลเวลเมือง)
ระดับค่าชื่อเสียงนั้น จะส่งผลต่อแต้มสกิล ในการอัปเกรดทักะการปกครอง (Govern) โดยจะแบ่งออกเป็น 5 อย่างหลักๆ ได้แก่
◘ Ruling
╠ Land Expansion : เพิ่มจำนวนการยึดครองพื้นที่สูงสุด
╠ Imstant Production : จ่าย 3 AP เร่งการผลิตเป็น 225% 1 ชั่วโมง
╠ Early Completion : จ่าย 1 AP เพื่อสิ้นสิ้นการสร้าง, อัปเกรดสิ่งปลูกสร้าง ที่มีเวลาเหลือต่ำกว่า 10 นาทีทันที
╠ Hero Phys. : เพิ่มโบนัสโจมตีกายภาพ ของ Hero
╚ Hero Magic พิ่มโบนัสโจมตีเวทย์ ของ Hero
◘ Resources
╠ Man of Action : เพิ่มค่า AP สูงสุด
╠ Scouting : ใช้ 1 AP ตรวจสอบข้อมูลศัตรู (ไม่กับ ป้อมปราการ ไม่ได้)
╠ Gathering : .ช้ 1 AP และ 10 Hero Stamina ฟาร์มทรัพยากรจำนวนมาก ตามประเภทจากจุดที่กดใช้ (ปริมาณมากขึ้น ตามค่าชื่อเสียง ณ จุดฟาร์มนั้น)
ที่ได้ขึ้นอยู่กับ จำนวนขึ้นอยู่ ค่าการฟาร์ม ณ จุดนั้นๆ)
╚ --- Boost (4 อย่างแยกกัน): เพิ่มปริมาณได้รับทรัพยากร ในแต่ละชั่วโมง (สูงสุด Lv.10 = 20%)
◘ Campaing
╠ Stamina Training : เพิ่มค่า Stamina สูงสุดของ Hero
╠ Battle EXP : เพิ่ม EXP ที่ได้รับจากการต่อสู้ทุกประเภท
╠ Drills : ใช้ 1 AP, 20 Hero Stamina และ 10 นาที ในการฝึกฝนกองกำลัง ได้รับ EXP ตามค่าปริมาณค่าชื่อเสียง ณ จุดฟาร์มนั้น
╠ Drills Mastery : เพิ่ม EXP ที่ได้รับจากการ Drills (ฝึกฝนกองกำลัง)
╠ Raid Raider : เพิ่มความเสียหายแก่ศัตรูประเภท Raid (Lv.10 + 20%)
╚ Raid EXP : เพิ่ม EXP ที่ได้รับจากการสู้ Raid
◘ Growth
╠ Stuerdy Outpost : เพิ่มจำนวนการสร้างป้อมปราการ และค่าความคงทน
╠ ม้า : ใช้ 3 AP เร่งการเดินทัพดังกล่าว 500%
╠ Troop Magic : เพิ่ม DMG เวทย์ของทหาร
╠ Troop Phys : เพิ่ม DMG กายภาพของทหาร
╠ Troop Phy RES : ลดความเสียหายกายภาพที่ทหารได้รับ
╠ Troop Magic RES : ลดความเสียหายเวทย์ที่ทหารได้รับ
╠ Long Expedition : จ่าย 10 AP เพื่อเดินไปยังจุดนอกพื้นที่
╚ Call to Arms : ลดเวลาในการรับสมัครทหาร
◘ Minister : เลือกตัวละคร ช่วยเพิ่มโบนัสทรัพยากรที่ได้รับนั้นมากขึ้น (SSR+10%)
9. การเข้ายึดพื้นที่ (March)
การเข้ายึดพื้นที่นั้น สามารถกระทำได้ ในพื้นที่ของศัตรู หรือไม่มีคนถือครอง และต้องอยู่ติดกับพื้นที่ของคนในประเทศฝ่ายเรา ภายใต้อาณาเขตที่สามารถเดินไปได้
10. อาณาเขตการเดิน
กองทัพของเรา สามารถเดินเข้าตี, ยึดพื้นที่ได้ ภายในพื้นที่อาณาเขตที่จำกัด โดยอิงจาก "ฐานทัพ", "ป้อมปราการ" ที่เข้าไปประจำการล่าสุด ซึ่งหากคุณต้องการเข้ายึดจุดฟาร์ม หรือตีป้อมใดๆ ในระยะไกล จำเป็นต้องสร้าง "ป้อมปราการ" (หรือเข้ายึด) เพื่อย้ายกองกำลังเข้าไปประจำการ ณ จุดนั้นๆ ก่อน ถึงสามารถเข้าตีเป้าหมาย ในอาณาเขตนั้นๆ ได้ง "ป้อม