ดังนั้นจะเห็นนะครับว่าถ้าเราฟาร์มดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง เราจะได้ค่าประสบการณ์ ทอง และประกายวิวัฒนาการเป็นหลัก แต่ถ้าเราฟาร์มดันเจี้ยนป้อมอีเทอร์ของเหล่าไซคลอปส์ เราจะได้อีเทอร์ระดับสูงและปากกาขนนกเป็นหลักแทน ถ้างั้นเราควรจะต้องฟาร์มอะไรก่อน?
พอเราฟาร์มอีเทอร์ชั้น 4 ได้ ชีวิตของเราจะเริ่มติดลูปฟาร์มของตามสิ่งที่ขาด เช่นตอนนี้ทีมผมกำลังขาดประกายวิวัฒนาการ ผมก็จะเน้นไปที่การฟาร์มดันเจี้ยนเนื้อเรื่องอย่างเดียวเลย พอประกายวิวัฒนาการเยอะพอแล้วก็ค่อยหันไปฟาร์มอีเทอร์เพื่อทำให้มอนสเตอร์ในทีมผมเก่งขึ้นอีก พอได้อีเทอร์ออปชั่นสวย ๆ แล้วก็ค่อยกลับมาฟาร์มดันเจี้ยนเนื้อเรื่องต่อ
วนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าทีมของเราจะได้มอนสเตอร์ 6 ดาว เลเวลเต็ม และมีอีเทอร์ออปชั่นสวย +15 ใช้งานครับ
2. ฟาร์มประกายวิวัฒนาการให้คุ้มกันเวลาที่เสียไปประกายวิวัฒนาการคือหนึ่งในไอเทมที่ใช้เยอะและต้องฟาร์มตลอดชีวิตการเล่นของเรา เพราะการอัปดาวมอนสเตอร์ทุกประเภทต้องใช้
ประกายวิวัฒนาการระดับอัลติเมทซึ่งต้องนำประกายวิวัฒนาการระดับต่ำผสมกันขึ้นมา (จะเอาแต้มอารีน่าแลกก็ได้นะ)
โดยด่านที่ 7 ของดันเจี้ยนเนื้อเรื่องทุกบทจะดรอปประกายวิวัฒนาการ แต่ระดับของประกายวิวัฒนาการที่ดรอปจะเปลี่ยนไปตามระดับความยาก
- ดันเจี้ยนเนื้อเรื่องระดับง่ายจะดรอปประกายวิวัฒนาการระดับต่ำ
- ดันเจี้ยนเนื้อเรื่องระดับกลางจะดรอปประกายวิวัฒนาการระดับต่ำและกลาง
- ดันเจี้ยนเนื้อเรื่องระดับยากจะดรอปประกายวิวัฒนาการระดับต่ำ, กลาง, และสูง
หากดูโดยผิวเผิน ฟาร์มดันเจี้ยนเนื้อเรื่องระดับยากน่าจะคุ้มสุด แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า
ดันเจี้ยนระดับยากของเกมนี้มันยากมากจริง ๆ ถ้าทีมไม่พร้อมนี่ต้องใช้เวลาในการผ่านด่านรอบนึงนานมาก ดีไม่ดีจะตายกลับมาจนระบบฟาร์มออโต้หยุดไปเองอีก ถ้าใครทีมพร้อมก็ฟาร์มไปได้เลย
แต่ถ้าทีมไม่พร้อมล่ะ? ฟาร์มแบบไหนดี?ถ้าทีมไม่พร้อมแนะนำให้ฟาร์มบทที่ 1,2 หรือ 3 ด่านที่ 7 ระดับธรรมดาครับ เพราะประกายวิวัฒนาการระดับต่ำและระดับกลางมาดรอปค่อนข้างบ่อย เราสามารถสะสมมาประกอบเป็นประกอบวิวัฒนาการระดับสูงต่อไปได้ อีกทั้งบอสไม่โหดและตีไม่แรงมาก สามารถฟาร์มได้เรื่อย ๆ อย่างชิล ๆ ในขณะที่บทที่ 4 เป็นต้นไปนั้นบอสจะเริ่มตีแรงและมีลูกเล่นที่ทำให้เราเสียเวลาฟาร์มมากขึ้น ดังนั้นผมแนะนำแค่บทที่ 1, 2 และ 3 เท่านั้นพอครับ แต่ถ้าทีมเฟี้ยวพอจะไปฟาร์มบทที่ 7 แทนก็ได้นะ เป็นอีกบทที่อยากแนะนำถ้าไปไหวครับ
3. มาดูอีเทอร์ระดับที่คุ้มจะลงทุนกันเถอะ!การอัปเกรดอีเทอร์แต่ละครั้งจะต้องใช้ทรัพยากร 2 อย่างคือ
ทองและชิ้นส่วนอีเทอร์ ยิ่งอีเทอร์ที่เราอัปเกรดเป็นอีเทอร์ที่มีระดับสูงมากเท่าไร ทองและชิ้นส่วนอีเทอร์ที่ใช้อัปเกรดก็จะมากขึ้นด้วย ทำให้เราต้องมานั่งดูกันว่าอีเทอร์แบบไหนที่คุ้มจะลงทุนกัน
อีเทอร์ที่คุ้มจะลงทุนคืออีเทอร์ 4 ดาวที่มีระดับตั้งแต่ฮีโร่ขึ้นไป เพราะอีเทอร์ระดับฮีโร่จะเหลือออปชั่นแฝงแค่ 1 ช่อง และอีเทอร์ระดับตำนานจะไม่มีออปชั่นแฝงเลย ทำให้เราสามารถเลือกอีเทอร์ที่มีออปชั่นเหมาะกับมอนสเตอร์ของเราได้ก่อนจะอัปเกรด ถึงแม้ว่าตอนอัปเกรดมันจะมานั่งสุ่มอีกทีว่าค่าไหนจะถูกเพิ่มขึ้นตอน +3 +6 +9 +12 และ +15
แต่อย่างน้อยการลดความเสี่ยงเรื่องออปชั่นแฝงลงไปได้ก็ทำให้เราประหยัดทรัพยากรที่ต้องเสียไปได้เยอะพอตัวเลยล่ะถ้าถามว่าอีเทอร์อันไหนเหมาะกับตัวไหน? ประเด็นนั้นอาจจะต้องวิเคราะห์เจาะเป็นตัว ๆ ไป เพราะมอนสเตอร์แต่ละตัวมีจุดเด่นและจุดอ่อนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้การใช้อีเทอร์เพื่อเสริมจุดอ่อนและกลบจุดอ่อนไม่เหมือนกันด้วย ในอนาคตจะมีการวิเคราะห์มอนสเตอร์ทีละตัวแล้วค่อยวิเคราะห์อีเทอร์ที่ควรใช้อีกครั้งครับ
4. ฟาร์มหินปลุกพลังชั้นไหนคุ้มสุดนะ?ดันเจี้ยนการสำรวจมิติปลุกพลังเป็นดันเจี้ยนเพียงแห่งเดียวที่ดรอปหินปลุกพลังและ
สามารถลงได้แค่วันละ 10 ครั้งเท่านั้น คำถามคือควรจะต้องลงฟาร์มชั้นไหน? เพราะหลาย ๆ คนน่าจะเจอปัญหาเดียวกันคือลงฟาร์มชั้น 3 แต่ฟาร์มไปฟาร์มมาหินปลุกพลังดรอปห่วยกว่าชั้น 2 อีก...
คำตอบง่ายมากครับ
ฟาร์มชั้นที่ไหวไปเลยไม่ต้องสนใจรางวัลว่าจะห่วยกว่าหรือเปล่า เพราะของดรอปมันสุ่มล้วน ๆ ต่อให้ได้หินปลุกพลังระดับต่ำมาหมดก็สามารถเอาไปประกอบเป็นระดับสูงกว่าได้ เรามานั่งลุ้นหินปลุกพลังระดับสูงที่อาจจะดรอปแทนดีกว่า มีโอกาสนิดนึงดีกว่าไม่มีเลย
และทางที่ดีควรฟาร์มดันเจี้ยนนี้ทันทีที่มันรีเซ็ต เพราะถ้าไม่รีบฟาร์มเราก็จะลืมและพลาดโอกาสได้รับหินปลุกพลังไปนะครับผม (ผมเคยมาแล้ว เศร้าจัด)
5. เทคนิคการฟาร์มหอคอยลวงตาฟาร์มให้มันคุ้มค่าที่สุดหอคอยลวงตาเป็นดันเจี้ยนที่เอาไว้ฟาร์มหินอัปเกรดสกิลและเพชรจำนวนหนึ่ง โดยหินอัปเกรดสกิลขอแค่ผ่านก็ได้รางวัลมาแล้ว แต่ถ้าอยากได้เพชรก็จะต้องสะสมดาวจากการผ่านด่านให้ครบตามที่กำหนดด้วย
ซึ่งแนวทางการฟาร์มหอคอยลวงตาจะมี 2 แบบ- เน้นผ่านอย่างเดียวเอาหินสกิลก็พอ เพชรไม่สนใจ - แนวทางนี้จะทำให้เราเก็บหินอัปเกรดสกิลมาได้อย่างชิล ๆ โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวจัดทีมตามเงื่อนไขการผ่านด่าน แต่ความคุ้มจะน้อยหน่อย
- เน้นเอาเพชรด้วย จะเอาไปกาชา - แนวทางนี้ก็จะต้องดูเงื่อนไขการจัดทีมแล้วจัดทีมให้ตรงตามเงื่อนไขด้วย อาจจะปวดหัวซักหน่อย แต่ได้ทั้งเพชรและหินอัปเกรดสกิลมาใช้งานแบบคุ้ม ๆ แน่นอน
ซึ่งจะฟาร์มแนวทางไหนก็ตาม
แต่สิ่งที่ควรทำคือฟาร์มไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่ไหวก่อนที่มันจะรีเซ็ตนะ
6. กุญแจปลดขีดจำกัดฟาร์มยังไงดี? กุญแจปลดขีดจำกัดเราสามารถฟาร์มได้จากดันเจี้ยนกวาดล้างทมิฬซึ่งจะ
มอบกุญแจให้เราตามคะแนนที่สามารถทำได้ เป็นดันเจี้ยนที่ไม่ต้องใช้สตามิน่าแต่จำกัดการลงแค่วันละ 3 ครั้งเท่านั้น
ดังนั้นจะลงตอนไหนก็ได้แค่อย่าลืมก็พอ เพราะกุญแจเหล่านี้สำคัญมากในช่วงท้ายเกมที่เราจะต้องเริ่มปั้นมอนสเตอร์ระดับตำนานแล้วนะครับ
เทคนิคเบื้องต้นสำหรับดันเจี้ยนนี้ให้เรานำมอนสเตอร์ที่มีสกิลลดความอึดเยอะและสามารถน็อกได้ลงไปเล่นจะดีที่สุด เพราะคาออสโจมตีแรงมาก โดยเฉพาะร่างที่ 2 กับร่างที่ 3 นี่โหดใช้ได้เลย
การลดความอึดแล้วทำให้คาออสน็อกไปเรื่อย ๆ จะทำให้เรามีเวลาทำความเสียหายใส่คาออสได้มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว โดยมอนสเตอร์ที่ผมแนะนำคือสเตลท์เอลฟ์ วอลล็อบ แอร์สไตรค์ และอีนิกเตอร์ครับ
และนี่ก็คือ
6 เทคนิคการฟาร์มให้คุ้มสตามิน่าจากประสบการณ์ตรงจากเกม Skylanders Ring of Heroes นะครับ เพื่อน ๆ จะเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ตรง ๆ เลยก็ได้ หรือจะเอาไปประยุกต์หรือปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเองก็ได้เช่นกัน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้เพื่อน ๆ มีชีวิตการฟาร์มเกมนี้ที่ดีขึ้นนะครับผม