ในเกม Skylanders มีมอนสเตอร์ให้เราเลือกใช้มากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ทุกตัวที่จะใช้งานได้ดีช่วงต้นเกม วันนี้ผมจึงจะมาแนะนำ 10 มอนสเตอร์ควรปั้นในเกม Skylanders Ring of Heroes ที่จะทำให้ชีวิตในการฟาร์มของเพื่อน ๆ มีแต่ความราบรื่นกันครับผม
***การวิเคราะห์ในบทความนี้ เป็นการวิเคราะห์บนพื้นฐานที่ว่ามอนสเตอร์ทุกตัวอัปเลเวลสกิลจนเต็มแล้วเท่านั้น หากยังอัปไม่เต็ม ประสิทธิภาพที่ได้จากมอนสเตอร์จะต่างไปจากการวิเคราะห์***
มอนสเตอร์ตัวที่ 1 คือแฟลชวิงค์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุดินสายสนับสนุน
ที่ได้มาปุ๊บควรปั้นทันที เพราะเป็นมอนสเตอร์สายสนับสนุนที่มีสกิลฮีล
"เกล็ดคริสตัลโอบกาย" ซึ่งแรงและช่วยเพิ่มค่าความอึดได้ จึงมีประโยชน์มากในการเล่นทุกโหมด นอกจากนี้ท่าโจมตีอย่าง
"รวมพลังแสง" นอกจากจะแรงพอตัวแล้วยังสามารถลดอัตราต้านทานเอฟเฟกต์และพลังป้องกันลงได้ มันทำให้ทีมของเราโจมตีแรงขึ้นและสามารถติดเอฟเฟกต์พวกระเบิด ตัดกำลัง หรือแช่แข็งได้ง่ายขึ้นกว่าปกติ แฟลชวิงค์จึงเป็นมอนสเตอร์ที่ปั้นแล้วเอามาใช้งานได้ยาว ๆ เลยล่ะ
มอนสเตอร์ตัวที่ 2 คือสเตลท์เอลฟ์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุพืชสายโจมตีที่เราจะได้มาตั้งแต่ต้นเกม เห็นเป็นตัวแจกแบบนี้
แต่บอกเลยว่าโหดไม่เบา เพราะทุกครั้งที่สเตลท์เอลฟ์โจมตีศัตรูติดน็อกหรือร่างแหลก สกิลติดตัวอย่าง "ซ่อนมิด" จะทำให้สเตลท์เอลฟ์ไม่เป็นเป้าหมายในการโจมตีจากเอฟเฟกต์ลอบกัด แถมยังเพิ่มค่าพลังโจมตีและอัตราคริติคอลได้อีกด้วย
ถ้าวางแผนการโจมตีดี ๆ จะสามารถใช้สกิลติดตัวนี้ได้รัว ๆ แทบจะทุกเทิร์นเลยล่ะที่แจ่มมากคือสกิลอย่าง "ลวดลายเอลฟ์สายพิษ" และ "ท่าร่ายรำมีดสั้นเร้นกาย" มีคูลดาวน์แค่ 2 และ 1 เทิร์นเท่านั้นเอง!!
เรียกได้ว่าท่าร่ายรำมีดสั้นนี่ใช้ได้ทุกเทิร์นเท่าที่ต้องการ แถมทั้ง 2 สกิลยังลดความอึดของศัตรูหนักมากด้วย จึงเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์เริ่มเกมที่ควรปั้นมาไว้ใช้มาก ๆ เพราะเก่งแบบสุดจัดจริง ๆ
.
มอนสเตอร์ตัวที่ 3 คือชิลล์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุน้ำสายแทงค์ที่ใช้งานดีกว่าที่คิดไว้มาก ๆ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของ
พลังป้องกันและความอึดที่สูงจึงทำให้สามารถรับดาเมจได้ดี ในส่วนของสกิล "เกราะวิเศษ" ก็สามารถยั่วยุศัตรูได้พร้อมเพิ่มพลังป้องกันให้กับตัวเองได้ 2 เทิร์น
โดยสกิลนี้มันแจ่มตรงที่มีคูลดาวน์แค่ 2 เทิร์น จึงสามารถยั่วยุศัตรูได้ตลอดเวลา แล้วพอศัตรูตีเข้ามาก็จะติดสถานะแช่แข็งจากสกิลติดตัว
"เกราะเยือกแข็ง" อีก จึงเป็นแทงค์ที่นอกจากจะอึดแล้วยังป่วนมาก ๆ ด้วย
สกิล
"หอกผลึกน้ำแข็ง" เป็นสกิลที่เบาและอาจดูไม่มีประโยชน์ในช่วงแรก
แต่จะมีประโยชน์มากขึ้นตอนปลุกพลังขั้น 6 เพราะสกิลนี้จะได้รับการอัปเกรดโดยการเพิ่มสถานะแช่แข็งขึ้นมา ซึ่งสถานะนี้จะทำให้มอนสเตอร์ที่ใช้สกิลขณะติดสถานะนี้มีคูลดาวน์เพิ่มขึ้น 1 เทิร์น
อาจจะดูไม่มีประโยชน์แต่มันป่วนมาก ๆ นะ เพราะคูลดาวน์เพิ่มขึ้น 1 เทิร์นสำหรับเกมนี้นี่ชี้เป็นชี้ตายได้เลย
.
มอนสเตอร์ตัวที่ 4 คือแอร์สไตรค์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุลมสายโจมตีที่
โจมตีเป้าหมายเดี่ยวได้แรงและลดความอึดได้สุดจัดมาก โดยสกิล
"เยี่ยมมากสหาย" นอกจากจะลดความอึดได้ถึง 3 หน่วยแล้ว ยังมีโอกาสทำให้ศัตรูติดดีบัฟตัดกำลังและลดพลังป้องกันลงด้วย เป็นสกิลที่ใช้ลดความอึดเพื่อต่อด้วยสกิลทำให้น็อกได้ดีมากเลยทีเดียว
ส่วนสกิล
"เล็งจุดอ่อน" นั้นไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แค่ทำให้ศัตรูมีโอกาสน็อก
แต่ความโหดมันอยู่ตรงที่ค่าความอึดที่ลดได้เนี่ยมันสูงถึง 4 หน่วย มันทำให้เราสามารถน็อกศัตรูได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้สกิลติดตัว
"การตัดสินของสหาย" ยังสามารถลบบัพของศัตรูที่โดนโจมตีแล้วสุ่มมอบบัพให้แอร์สไตร์คได้อีก นอกจากแรงแล้วยังป่วนจัดแบบนี้จึงเป็นอึกหนึ่งมอนสเตอร์ที่ผมอยากแนะนำนะครับ
.
มอนสเตอร์ตัวที่ 5 คือบัคช็อต เป็นมอนสเตอร์ระดับตำนานธาตุเวทย์สายโจมตีที่โหดพอตัว เพราะมีสกิลโจมตีหมู่ถึง 2 สกิลคือ
"ยิงระยะไกล" และ
"ประตูมิติฝูงแกะ" ทำให้เราสามารถกำจัดกลุ่มมอนสเตอร์ลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ทีเด็ดของบัคช็อตจริง ๆ แล้วอยู่ที่สกิล
"มิติเวลาผกผัน" ต่างหาก เพราะสกิลนี้จะใช้มานาทั้งหมดที่มีโจมตีศัตรู
ยิ่งใช้มานาเกินจากค่าร่ายของสกิลนี้มากเท่าไร ดาเมจที่ได้ก็จะยิ่งเยอะ เหมาะจะใช้เวลาเจอบอสหรือเวลาใช้สกิลต่าง ๆ แล้วมานาเหลือเศษ 1 เป็นอย่างมาก บัคช็อตจึงเป็นมอนสเตอร์ที่เล่นง่ายและแนะนำให้รีโรลหามาใช้ช่วงต้นเกมครับ
มอนสเตอร์ที่ตัวที่ 6 คือชอปชอป เป็นมอนสเตอร์ระดับตำนานสายแทงค์ที่มีพลังโจมตีสูง จึงเป็นตัวแทงค์ที่เราสามารถพึ่งพาดาเมจได้ดี สกิลเด็ดของชอปชอปคือ
"โล่ปักหนาม" โดยถ้าชอปชอปตาย
ตัวชอปชอปจะได้รับเอฟเฟกต์อมตะและยั่วยุมา 2 เทิร์นก่อนที่จะตายจริง ๆ ซึ่งสกิลนี้มันช่วยเปิดโอกาสให้มอนสเตอร์ในทีมมีโอกาสรอดจากการโจมตีและใช้สามารถสกิลถล่มคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น เป็นมอนสเตอร์สายแทงค์ที่ดีและเล่นง่าย ถ้าใครเปิดได้จากตู้การันตีผมแนะนำให้เอามาใช้เลยครับ
มอนสเตอร์ตัวที่ 7 คือไวล์ดไฟร์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุไฟสายแทงค์ที่เราจะได้มาตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งในช่วงเริ่มเกมไวล์ดไฟร์จะยังไม่เก่งเท่าไรเพราะมีดีแค่ความอึด
แต่เมื่ออัปสกิลและปลุกพลังมาจนถึงระดับนึง ไวลด์ไฟร์จะเริ่มโหดขึ้นจากการที่สกิลเวทย์วงแหวนเพลิงจะกลายเป็นสกิลโจมตีหมู่ ทำให้สามารถลดความอึดของศัตรูเป็นหมู่คณะได้ แถมสกิลติดตัวยังสามารถสะท้อนการโจมตีและทำให้ศัตรูติดสถานะตัดกำลังได้อีก
จึงเป็นตัวแทงค์อีกตัวที่น่าปั้นมาไว้ใช้นะครับ ช่วงแรกอาจจะไม่เก่ง แต่ระยะยาวโหดแน่นอน
มอนสเตอร์ตัวที่ 8 คือฟรีซเบลด เป็นมอนสเตอร์ธาตุน้ำสายโจมตีที่ทั้งสกิล "กรงจักรเหมันต์" และ "เสาน้ำแข็ง" เป็นสกิลโจมตีหมู่ที่มีความรุนแรงมาก ๆ โดยเฉพาะเสาน้ำแข็งนั้นจะสามารถมอบสถานะแช่แข็งให้กับศัตรูได้ด้วย
เป็นมอนสเตอร์ที่ป่วนมากตัวนึงเลยเวลาสู้กันในอารีน่า ถ้ายังไม่มีมอนสเตอร์โจมตีหมู่แจ่ม ๆ ในทีม ปั้นตัวนี้มาใช้ก็ได้นะครับ
มอนสเตอร์ตัวที่ 9 คือวอลล็อบ เป็นมอนสเตอร์ธาตุดินสายโจมตีที่โจมตีแรงมาก ๆ สามารถใช้เป็นตัวแบกทีมได้ดีไม่แพ้สเตลท์เอลฟ์
ความเด็ดคือวอลล็อบอยู่ที่สกิล "ปรี๊ดทะลุจุดเดือด" ที่สามารถทำให้ศัตรูเป็นใบ้ได้ โดยความโหดของการใบ้คือ
มันจะทำการยกเลิกสกิลที่ชาร์จอยู่หรือชาร์จเสร็จแล้วทันทีพร้อมทั้งเพิ่มคูลดาวน์ให้สกิลนั้น 1 เทิร์น ถ้าอีกฝ่ายมีค่าต้านทานเอฟเฟกต์ไม่เยอะนี่บอกเลยว่าไม่มีวันได้ใช้สกิลชาร์จแน่ ๆ
มอนสเตอร์ตัวที่ 10 คืออีนิกเตอร์ เป็นมอนสเตอร์ธาตุไฟสายโจมตีที่ผู้เล่นนิยมใช้ในฐานะตัวลดค่าความอึดที่แรงและดี เพราะสกิล
"การปะทะเดือดระอุ" มีความแรงสูง น็อกศัตรูได้
และสามารถลดความอึดได้ถึง 4 หน่วย! แถมคูลดาวน์ก็ไวมากเพียงแค่ 2 เทิร์น จึงเป็นมอนสเตอร์ที่มักปั้นเอาไว้ใช้น็อกศัตรูเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้พวกมันได้โจมตีครับ โดยเฉพาะโหมดบอสคาออสนี่ใช้งานได้ดีเลยล่ะ

และนี่ก็คือ
10 มอนสเตอร์ควรปั้นในเกม Skylanders Ring of Heroes นะครับ จริง ๆ แล้วมอนสเตอร์ทุกตัวในเกมนี้น่าปั้นน่าใช้หมดครับ และสุดท้ายยังไงตอนช่วงท้ายเกมเราก็ต้องปั้นทุกตัวมาสลับใช้อยู่ดี
แต่การปั้นมอนสเตอร์ 10 ตัวนี้จะทำให้ชีวิตของเราช่วงต้นเกมง่ายขึ้นนะครับผม หวังว่าไกด์นี้จะช่วยเพื่อน ๆ ได้นะครับ