Rail Shooter เป็นแนวเกมยอดฮิตที่มีมาตั้งแต่สมัยยี่สิบปีที่แล้ว โดยเกมแนวนี้เราจะต้องสวมบทบาทเป็นนักแม่นปืนออกตะลุยยิงผู้ร้าย ปีศาจ ซอมบี้ หรืออะไรก็ตามแต่ไปเรื่อย ๆ ในเส้นทางที่กำหนด ปัจจุบันยังที่ยังพอหาเล่นได้อยู่จะเป็นภาคใหม่ ๆ ภาพสุดอลังการ แต่วันนี้ผมจะพาทุกคนย้อนอดีตไปดูเกมแนว Rail Shooter สมัย 20 ปีที่แล้วกันครับผม
เกมแนวนี้เกมแรกที่ผมได้เล่นในชีวิตเลยคือเกม Time Crisis เป็นเกมที่เราจะได้รับบทบาทเป็นมือปืนมือฉมังบุกตะลุยเหล่าผู้ก่อการร้ายเพื่อช่วยเหลือตัวประกันและกำจัดตัวการใหญ่ลงให้ได้ ความสนุกของเกมนี้มันอยู่ตรงที่เราสามารถหลบและออกไปยิงได้อย่างอิสระผ่านการเหยียบแป้นบนตู้อาร์เคด จะเหยียบรัว ๆ หลบแบบดิจิตัลหรือเหยียบค้างออกไปบู๊โชว์ให้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นดูก็ได้ ในสมัยนี้มันอาจจะดูเป็นอะไรที่ธรรมดา แต่ในสมัยนั้นมันเป็นอะไรที่เท่มาก ๆ เลยนะ
นอกจากนี้เราจะได้พบกับศัตรูมากหน้าหลายตาที่มีอาวุธหลากหลายมาให้เราได้ยิงเล่นกัน แถมแต่ละด่านมีหลายเส้นทางให้เราเลือกไป ขึ้นกับว่าเราทำตามเงื่อนไขได้ที่กำหนดได้หรือไม่ ถ้าเป็นสมัยนี้คงไม่ยากอะไร แค่เปิดอินเทอร์เน็ตดูเงื่อนไขแล้วทำตามเท่านั้นเอง แต่สมัยก่อนยังไม่มีอินเทอร์เน็ต แถมเกมตู้ไม่มีบทสรุป เราไม่มีทางรู้เลยว่าเงื่อนไขมันคืออะไร ผมจึงทำได้แค่พยายามหาทางใหม่ไปแบบมั่ว ๆ เท่านั้นเอง
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
เราต้องหยอดเหรียญสิบลงไปในตู้ 1 เหรียญเพื่อเล่นเกม 1 ครั้ง จากนั้นจึงหยิบปืนขึ้นมาเล็งเป้าแล้วยิงศัตรูไปเรื่อย ๆ ตายก็หยอดใหม่จนกว่าจะจบหรือกระเป๋าแห้งไป ตอนที่ในเมืองไทยมีแต่เกมตู้นั้น เข้าห้างทีไรผมก็พุ่งเข้าไปเล่นเกมนี้ตลอด 10 บาทบ้าง 20 บาทบ้าง ถึงมันจะเล่นไม่จบแต่แค่ได้เล่นก็มีความสุขแล้ว
จนกระทั่งมี PlayStation 1 แล้วซื้อเกมนี้มาเล่นนั่นแหละผมจึงได้เล่นจบซักทีโดยใช้เวลาเล่นตั้งแต่เช้าจนเย็น!! ทำไงได้ก็ผมกากเกมแนว FPS (จนวันนี้ก็ยังกากอยู่) แถมในยุคนั้นจอยปืนมันแพงมาก เลยต้องเล่นด้วยจอยธรรมดาซึ่งมันทำให้การเล่นธรรมดากลายเป็น Hard Mode ไปเลย ถึงมันจะยากแค่ไหนแต่เกมนี้ในสมัยนั้นถือเป็นเกมที่สนุกและผมว้าวมาก ๆ เลยล่ะ
เกมต่อมาคือ
The House of the Dead เป็นเกมที่เราจะได้รับบทบาทเป็นเอเย่นต์นักแม่นปืน ออกตะลุยดงซอมบี้และสัตว์ประหลาดสุดสยองและน่าขยะแขยง เพื่อไปช่วยเพื่อนและกำจัดบอสใหญ่ที่เป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดให้ได้ ถ้าเป็นสมัยนี้พวกเกมและหนังแนวซอมบี้ปีศาจมันเกลื่อนจนเราเบื่อกันหมดแล้ว
แต่สมัยก่อนพวกเกมแนวซอมบี้ยังไม่แพร่หลายและถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก ๆ แถมมาเป็นรูปแบบเกมยิงอีกมันทำให้เกมนี้ได้ใจและได้ตังจากเด็ก ๆ ในสมัยนั้นรวมถึงตัวผมด้วยไปเยอะเลยทีเดียว
สมัย 20 ปีที่แล้วผมชอบเล่นเกมนี้มากไม่แพ้ Time Crisis เลย เพราะพวกซอมบี้กับปีศาจมันไม่ได้น่ากลัวมาก แค่น่าขยะแขยงชวนอาเจียนเป็นระยะ ระบบการเล่นมันจะยากขึ้นนิดหน่อยตรงที่มันไม่มีที่ให้เราหลบ
เราจะต้องยิงพวกปีศาจหรืออุปสรรคต่าง ๆ ให้หมดก่อนที่มันจะเข้าถึงตัว ถึงจะเล็งแบบจับวางแค่ไหน แต่ศูนย์ปืนสมัยก่อนมันไม่ได้แม่นมาก เกมนี้จึงเป็นเกมที่กว่าจะเล่นจนจบได้นี่หมดไปเป็นร้อยบาทเหมือนกัน สะสมเงินค่าขนมกันเป็นอาทิตย์อ่ะครับกว่าจะจบ
เกมนี้ผมมีความทรงจำกับมันไม่มาก เพราะเท่าที่จำได้คือตู้มันมาแปปเดียวแล้วก็พังจากอะไรก็ไม่รู้ แต่ยังดีที่ช่วงนั้นผมว่างเลยหยอดเหรียญรัว ๆ จนเล่นจบได้ก่อนมันจะพัง เดินผ่านไปห้างแถวบ้านก็ยังเจอตู้เกมจากตระกูลนี้ภาคใหม่ ๆ พอหลงเหลืออยู่บ้าง ถึงจะเดินยิงเหมือนกันแต่ผมว่ามันก็ไม่คลาสสิกเท่าภาคแรกครับ
เกมที่สามคือ
Vampire Night เป็นเกมที่เราจะได้รับบทบาทเป็นนักล่าแวมไพร์ที่จะต้องออกเดินทางฝ่าฟันเหล่าบอสและลูกกระจ๊อกต่าง ๆ เพื่อไปให้ถึงตัวบอสใหญ่และยิงมันให้ร่วงให้ได้!!
เกมนี้มาในคอนเซปต์ที่ถือว่าแปลกตาและแหวกแนวมากในสมัยนั้น เพราะจะมีการนำสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์เข้ามาผสมผสานกับเกมด้วย
ไม่ใช่เราที่เป็นคนร่ายเวทมนตร์
แต่พวกบอสนั่นแหละที่จะเป็นคนร่ายเวทมนตร์ต่าง ๆ เพื่อแปลงร่างและใช้เวทมนตร์ขั้นสูงเข้าสู้กับเรา คงไม่ต้องสงสัยนะครับว่าเราเอาอะไรสู้ ใช่ครับเราเอากระสุนนี่แหละยิงอัดเข้าไปจนกว่ามันจะตาย นอกจากนี้เหล่ามอนสเตอร์ในเกมก็ไม่ได้น่าขยะแขยงมาก และมาในธีมของปีศาจโบราณยุคตะวันตก มันทำให้ผมเล่นเกมนี้ได้สบาย ๆ โดยไม่พะอืดพะอมเลยล่ะ
จุดเด่นนึงที่ทำให้ผมชอบเกมนี้มากคือเสียงเพลงภายในเกมครับ ทำออกมาได้เร้าใจและเข้ากับบรรยากาศในด่านดีมาก ๆ เล่นยังไงก็ไม่เบื่อ ถึงไม่เบื่อแต่ก็ใช่ว่าจะเล่นได้จนจบ (เพราะตอนนั้นตังไม่ค่อยมีครับ ฮ่า ๆ) กว่าจะมาเล่นจบอีกทีก็ตอนมาเล่นอีกทีใน PlayStation 2 ครับ
ทั้งสามเกมนี้ ถ้าเป็นภาคเก่ามาก ๆ ในปัจจุบันจะหาเล่นตามห้างไม่ได้แล้ว
ต้องโหลด Emulator มาเล่นบนคอมอย่างเดียวเท่านั้น (หรือจะประมูลตู้เกมมาเล่นที่บ้านก็ได้นะ) สำหรับภาคใหม่ ๆ ก็แอบหายาก ต้องเป็นห้างที่มีเกมเซ็นเตอร์ใหญ่มากจริง ๆ ถึงจะพอมีอยู่บ้างให้เล่นพอหายคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ
ถ้าให้พูดกันตรง ๆ เกมแนว Rail Shooter เป็นแนวเกมที่สนุกและผมยังอยากให้มีการพัฒนาเกมใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพราะมันมีความสนุกที่เกมแนวอื่นไม่สามารถทดแทนได้อยู่
ความสนุกนั้นคือบรรยากาศที่เราได้สนุกไปกับเพื่อนครับ จนทุกวันนี้ผมยังคิดถึงบรรยากาศสมัยนั้นอยู่เลย ผมกับเพื่อนถือปืนเล่นเกม แล้วมีเพื่อน ๆ ยืนข้างหลังโหวกเหวกโวยวายเชียร์ มันคือบรรยากาศที่หาไม่ได้แล้วในสมัยนี้ ที่ต่างคนต่างเล่นเกมอยู่บ้านแล้วคุยกันผ่านทางโปรแกรมพูดคุยต่าง ๆ หวังว่าบทความนี้น่าจะพอช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้กับเพื่อน ๆ รุ่นเก๋ากันมาได้บ้างนะครับ