ในที่สุดข่าวดีที่คนทั้งโลกรอคอยก็มาถึงแล้วจ้า~ กับกิจกรรมที่เหล่าเทรนเนอร์จับตาเฝ้ามองกันทุกปีอย่าง Pokémon GO Fest โดยในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ทาง Niantic ได้เปิดโอกาสให้ "เล่นกิจกรรมกันได้ที่บ้าน" ผ่านการซื้อบัตร Ticket: Go Fest 2020 ในหน้าร้าน Shop เนื่องจากการป้องกันการติดโรค Covid 19 ที่ต้องรวมตัวผู้คนเยอะๆในสถานที่คนพลุกพล่าน ทางทีมงานจึงได้จัดรูปแบบพิเศษให้ในปีนี้ ซึ่งเทรนเนอร์ทั่วโลกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมกันได้แบบไม่ต้องจองตั๋วบินไปงานเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขอแค่มีตังเปย์ก็ Say Yes เข้ามา Join กันได้ทันที!
ความน่าสนใจอยู่ที่เราสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ หากทำการซื้อบัตรแล้วในช่วงระยะเวลากิจกรรม ไม่จำเป็นต้องไปสุมกองกันรวมตัวคนเยอะๆแบบในทุกครั้ง (ซึ่งก็น่าเสียดายมาก เพราะภายในงานคนเยอะๆสนุกกว่าจริงๆ ทั้งบรรยากาศและเสียงเฮดังๆตอนได้ Shiny) ที่สำคัญเรายังจะได้เหรียญ Medal รางวัลประดับ ID ว่าได้เข้าร่วมกิจกรรมกันด้วยนะ ยังไงก็จดวัน และเวลากันเอาไว้ให้ดีๆ พลาดครั้งนี้ไปจะหาว่าไม่เตือนนะตัวแรร์ๆเพียบแน่นอน! แต่สายฟรีที่หัวเด็ดเท้าขาดยังไงก็ไม่เติมไม่ต้องกังวลใจไป ยังมีกิจกรรมนอก Event รองรับให้ได้ร่วมสนุกกันแน่นอนเหมือนทุกปีนะจ๊ะ
Pokémon GO Fest คืออะไร??
Pokémon GO Fest หรือที่เรียกว่า Pokémon GO Safari Zone คือกิจกรรมที่ทาง Niantic ขนกองทัพเหล่า Pokemon ตัวหายากต่างๆที่ไม่ได้ปล่อยให้จับกันได้ง่ายๆทั่วไป เอามาใส่ในงานแบบจัดเต็ม! ไล่ตั้งแต่ Shiny ประจำงานสุดหายากหรือกระทั่งตัว Unknow อักษรประจำเมืองที่ทำมาเป็นพิธีบ่อยๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นการ Deal กันเพื่อโปรโมทสถานที่และจ่ายเงินค่าสปอนเซอร์ในการจัดงานตามเมืองและประเทศนั้นๆ) ซึ่งกิจกรรมจะมีการประกาศล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ ในเรื่องของประเทศ สถานที่ และกติกาการเข้าร่วมต่างๆ โดยที่ผ่านมานั้นเคยมีทั้งแบบเข้างานฟรีและเสียค่าบัตรลงทะเบียนเข้าไป แต่ในปีนี้พิเศษกว่าใครที่ทั่วทั้งโลกจะได้เล่นอยู่ที่ประเทศตัวเองแบบไม่ต้องเดินทาง จองตั๋ว หาที่พักให้วุ่นวาย!
• กติกาการเข้าร่วม Pokémon GO Fest
- กิจกรรมนี้เฉพาะผู้ที่กดซื้อบัตร Ticket: Go Fest 2020 เท่านั้น
- ผู้ที่จะเข้าร่วมต้องซื้อบัตรก่อนที่กิจกรรมจะเริ่มต้น มิฉะนั้นจะเข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้
- พิเศษกว่าใคร รอบนี้บัตร 1 ใบ จะเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้ง 2 วัน!
- ราคาบัตรเข้าร่วมกิจกรรมจะอยู่ที่ 449 บาท สามารถกดดูรายละเอียดได้ในหน้า Shop
- บัตร Ticket: Go Fest 2020 ต้องใช้เงินจริงเท่านั้น ใช้ PokeCoin แทนไม่ได้
- บัตร Ticket: Go Fest 2020 เมื่อซื้อแล้วจะไม่สามารถกดคืนเงินได้
- คนที่ไม่ได้ซื้อบัตร จะมองไม่เห็น Pokemon ใน Event เมื่อเริ่มกิจกรรม
• รายละเอียดกิจกรรม Pokémon GO Fest
วันเริ่มกิจกรรม : วันเสาร์ ที่ 25 กรกฎาคม และ วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2020
เวลาร่วมกิจกรรม : เริ่มเวลา 10:00 น. - 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
Pokémon GO Fest 2020 Day 1
- เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมจะพบกับเควสพิเศษ ที่จะมีให้ทำเฉพาะผู้เข้าร่วมในวันที่ 1 เท่านั้น
- พบกับ 5 กิจกรรมใหญ่ ที่จะให้เทรนเนอร์ได้ร่วมสนุกในตีมของ Fire , Water , Glass , Battle และ Friendship โดยจะหมุนเวียนสลับกิจกรรมมาให้ทุก 1 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลากิจกรรม 10 ชั่วโมงเต็ม (รวมแล้วกิจกรรมละ 2 รอบ)
- พบกับกิจกรรมเฉพาะเทรนเนอร์ผู้ซื้อบัตรเข้ารว่ม ที่จะต้องช่วยกันปลดล็อคทำเควสภารกิจให้เสร็จในชื่อที่ว่า Global Challenge Arena! โดยจะสามารถเชคสถานะความคืบหน้าได้ตอนร่วมกิจกรรม ถ้าทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัลเป็นโบนัสตามเวลาที่เหลือในชั่วโมงนั้นๆ ซึ่งกิจกรรมจะเปลี่ยนไปทุกชั่วโมงเข้ามาเรื่อยๆครับ
- เทรนเนอร์จะได้พบกับเหล่า Pokemon กว่า 75 ชนิดที่จะถูกปล่อยเข้ามาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเกิดทั่วไป , ขึ้นเป็นบอสให้ Raid หรือกระทั่งทำเควส Special Research ในช่วงระยะเวลากิจกรรม
Pokémon GO Fest 2020 Day 2
- Niantic ขออุบเอาไว้ก่อนไม่ยอมบอก แต่ทิ้งคำเปรยเอาไว้ว่ามีเซอร์ไพรส์กันอย่างแน่นอนสำหรับผู้ซื้อบัตร!!
- สำหรับทุกคนที่ร่วมหรือไม่ร่วมกิจกรรม สามารถเข้าไปสั่งซื้อเสื้อกันได้ด้วยนะจากเพจหลัก PokemonCenter.com
The lead-up to Pokémon GO Fest 2020 will bring weekly challenges
รายละเอียดกิจกรรม
- กิจกรรมสำหรับเทรนเนอร์ทุกคน เข้าร่วมได้แบบไม่ต้องซื้อบัตร
- ระยะเวลากิจกรรมมีทั้งหมด 3 สัปดาห์ก่อนที่ Pokémon GO Fest 2020 จะเริ่มต้นขึ้น
- ในช่วงระยะเวลากิจกรรม จะมีภารกิจ Special Research ให้เหล่าเทรนเนอร์ทั่วโลกช่วยกันทำให้สำเร็จ
- หากทำสำเร็จ รางวัลโบนัสจะไปปลดล็อคในกิจกรรม Pokémon GO Fest 2020
- รายละเอียดภารกิจที่ต้องทำจะประกาศอีกครั้ง
ปล. รายได้จากการขายบัตรกิจกรรม Pokémon GO Fest 2020 ครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการใหม่จากผู้สร้างเกมในฝั่ง AR creators ที่อยู่ใน Niantic platform และอีกครึ่งหนึ่งจะไปที่องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรในสหรัฐอเมริกา โดยขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5 ล้านดอลลาร์
